บ่ายวันหนึ่ง ขณะที่ผมและทีมงานกำลังเดินเล่นไปตามถนนในเมืองราไน เราก็ต้องพบกับภาพอันน่าสลดใจ สุนัขตัวหนึ่งนอนอยู่ในสภาพที่น่าสยดสยอง ทั่วทั้งตัวเต็มไปด้วยบาดแผล ผิวหนังแตกละเอียด ใบหน้าบวมเป่ง และมีหนองไหลซึมออกมา เมื่อมองใกล้ๆ จะเห็นชัดว่าสุนัขตัวนี้ทนทุกข์ทรมานมานาน ถูกละเลย และต้องทนทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส

เห็นสถานการณ์เช่นนี้แล้ว ใจฉันสั่นสะท้านจริงๆ ฉันทนไม่ได้ที่จะปล่อยเขาไว้คนเดียว ฉันรีบไปพบแพทย์ทันทีเพื่อให้สุนัขได้รับการรักษา ไม่นานนัก ทีมสัตวแพทย์ก็มาถึงที่เกิดเหตุ ตอนแรกเราต้องการฉีดยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันไม่ให้การติดเชื้อรุนแรงขึ้น อย่างไรก็ตาม สุนัขตัวนี้ฝึกยากมากเพราะความกลัวและความเจ็บปวดของมัน
ในที่สุดเราก็ตัดสินใจให้อาหารผสมยาปฏิชีวนะแก่เขา ด้วยความอดทน ทีมงานก็สามารถทำให้สุนัขกินอาหารได้ นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของความพยายามฟื้นฟูของเขา

จากการตรวจสอบเบื้องต้น สุนัขน่าจะมีการติดเชื้อที่ผิวหนังอย่างรุนแรง ซึ่งเกิดจากปรสิต เชื้อรา และแบคทีเรีย บาดแผลที่บวมและใบหน้าบวมบ่งชี้ว่าการติดเชื้อได้แพร่กระจายไปแล้ว นอกจากนี้ สุนัขยังอ่อนแอมากเนื่องจากขาดสารอาหารและขาดน้ำ
ในความพยายามนี้ บทบาทของ พี่ซีโร่ สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือเขาสามารถค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสัตวแพทย์และผู้รักสัตว์ที่เขาสามารถร่วมงานด้วยได้อย่างรวดเร็ว การสนับสนุนนี้ช่วยให้กระบวนการรักษาฉุกเฉินของสุนัขที่น่าสงสารตัวนี้รวดเร็วยิ่งขึ้นอย่างมาก
ในทางกลับกัน ฉัน (BWS) ก็รู้สึกขอบคุณที่ได้พบกับผู้อยู่อาศัยที่มีชื่อย่อเช่นกัน เอเจ ผู้มีเจตนาจริงที่จะดูแลและให้อาหารสุนัขตัวนี้จนกว่ามันจะหายดี เมื่อเห็นความจริงใจของเธอ ฉันจึงตกลงที่จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการรักษา ตั้งแต่ค่ายา ค่าอาหาร ไปจนถึงสิ่งจำเป็นอื่นๆ
สำหรับฉัน การดูแลทางสังคมไม่ได้ขยายไปถึงแค่เพื่อนมนุษย์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงสิ่งมีชีวิตทุกชนิดที่พระเจ้าทรงสร้างขึ้นด้วย ทุกชีวิตสมควรได้รับโอกาสที่จะมีสุขภาพดีและมีความสุข ความหวังของฉันก็คือในอนาคตจะมีคนรักสัตว์มากขึ้นในนาตูนาที่จริงจังกับการดูแลสัตว์ที่ถูกทอดทิ้งและป่วยไข้ เพื่อที่สัตว์เหล่านั้นจะได้มีชีวิตที่ดีได้เช่นกัน

หวังว่าสุนัขที่น่าสงสารตัวนี้จะฟื้นตัวในเร็วๆ นี้ และหวังว่าเรื่องราวนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้เราทุกคนใส่ใจดูแลมากขึ้น ไม่เพียงแต่กับมนุษย์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงสัตว์ที่ต้องการความช่วยเหลือด้วย
ใส่ความเห็น